ปลาเทราต์ ต่างจากปลาแซลมอนอย่างไร? เทียบชัดทุกมิติ

เมื่อพูดถึงปลาน้ำเย็นยอดนิยมอย่าง ปลาเทราต์ และ ปลาแซลมอน หลายคนอาจสับสนหรือคิดว่าเป็นปลาชนิดเดียวกัน เนื่องจากมีรูปร่างและลักษณะที่ใกล้เคียงกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัย รสชาติ เนื้อสัมผัส และคุณค่าทางโภชนาการ ในบทความนี้เราจะพาทุกคนรู้จัก ปลาเทราต์ ปลาฝาแฝดของปลาแซลมอนให้รู้จักกันมากขึ้น
ปลาเทราต์
ปลาเทราต์ หรือปลาฟยอร์ดเทราต์ (Fjord Trout) เป็นปลาตระกูลเดียวกับแซลมอน มีถิ่นกำเนิดจากประเทศนอร์เวย์เหมือนกัน ปลาเทราต์อาศัยอยู่ในน้ำจืด หรือทะเลสาบที่มีอุณหภูมิ เป็นสายพันธุ์ปลาที่เลี้ยงง่ายจึงเป็นปลาชนิดแรกที่ถูกนำมาเลี้ยงในฟาร์มปลา
ความแตกต่างระหว่างปลาเทราต์กับปลาแซลมอน: เหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

ถึงแม้ว่า ปลาเทราต์ (Trout) และ ปลาแซลมอน (Salmon) จะมีลักษณะภายนอกที่คล้ายกันจนทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นปลาชนิดเดียวกัน แต่ความจริงแล้ว ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งลักษณะ เนื้อสัมผัสและรสชาติ โดยปลาเทราต์มีความแตกต่างจากแซลมอน ดังนี้
1. ลักษณะภายนอก
- ปลาเทราต์ ส่วนหัวกลม ปากสั้น ลำตัวอ้วนป้อมและมีความสั้น สีของลำตัวมักมีจุดสีดำหรือสีแดงกระจายตามตัว
- ปลาแซลมอน มีส่วนที่หัวแหลม ปากยาว มีลำตัวเรียวและมีความยาวกว่าปลาเทราต์ มีลายจุดตามตัวที่น้อยกว่า
2. รสชาติและเนื้อสัมผัส
- ปลาเทราต์ เนื้อปลาจะมีสีส้มเข้ม หรือส้มอมแดง เนื้อสัมผัสนุ่มและมีความแน่น มีไขมันแทรกตามเนื้อน้อย มีรสชาติอ่อนกว่าแซลมอนเล็กน้อย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการปลาที่ทานง่าย และนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู
- ปลาแซลมอน เนื้อปลาจะมีสีส้ม-ส้มอ่อน มีเนื้อสัมผัสเนื้อนุ่มและละมุน มีรสชาติเข้มข้นกว่าปลาเทราต์ และมีไขมันแทรกตามเนื้อเยอะ เหมาะกับผู้ที่ชอบรสชาติเนื้อปลาแบบเข้มข้น
เทราต์อยู่ตามธรรมชาติ ต่างกับ เทราต์แบบเลี้ยงในฟาร์ม อย่างไร?

หลายคนอาจจะสงสัยว่าปลาเทราต์ที่จับจากธรรมชาติแตกต่างจากปลาเทราต์ที่เลี้ยงในฟาร์มอย่างไร? ความแตกต่างนี้มีทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ และวิธีการเลี้ยง ดังนี้
-
ปลาเทราต์ธรรมชาติ
ปลาเทราต์ที่จับจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จะเติบโตและใช้ชีวิตอยู่ในน้ำเค็ม เมื่อถึงฤดูการวางไข่ พวกมันจะว่ายทวนกระแสน้ำเข้าสู่แหล่งน้ำจืดเพื่อทำการผสมพันธุ์ หลังจากนั้นตัวผู้และตัวเมียจะสิ้นชีวิต ส่วนลูกปลาที่ฟักออกจากไข่จะว่ายกลับไปยังทะเลเพื่อใช้ชีวิตและเจริญเติบโต เมื่อถึงช่วงฤดูวางไข่ พวกมันจะว่ายทวนกระแสน้ำกลับมายังแหล่งน้ำจืดอีกครั้ง โดยพวกมันจะจะได้กินอาหารที่เป็นธรรมชาติ เช่น แมลงหรือสาหร่ายในน้ำ
-
ปลาเทราต์เลี้ยงในฟาร์ม
ปลาเทราต์ที่เลี้ยงในฟาร์มที่เป็นน้ำเค็มตลอดทั้งปี จะได้รับการเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่สามารถติดตามและตรวจสอบการเจริญเติบโตได้ ซึ่งมีการให้อาหารที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำให้เนื้อปลาเทราต์ในฟาร์มมักมีเนื้อที่มีคุณภาพ มีความแน่น และรสชาติที่ต่างออกไปจากปลาเทราต์ธรรมชาติ
ประโยชน์ของปลาเทราต์

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ปลาเทราต์ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือ คุณค่าทางโภชนาการที่โดดเด่นไม่ต่างจากการทานปลาแซลมอน นั่นคือ
-
อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3
ปลาเทราต์เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดี ซึ่งประกอบด้วยกรด DHA และ EPA โดยกรดไขมันเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ ลดการอักเสบภายในร่างกาย และจำเป็นต่อกระบวนการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
-
เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง
ปลาเทราต์ยังเป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ผ่านกระบวนการสร้างแอนติบอดี ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพหรือเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
ปลาเทราต์สามารถทานส่วนไหนและทำเมนูอะไรได้บ้าง?

การบริโภคปลาเทราต์สามารถรับประทานได้แทบทุกส่วน โดยเฉพาะ 5 ส่วนที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ได้แก่
-
เนื้อบนซี่โครง (Top Loin)
เป็นส่วนที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุน มีรสชาติกลมกล่อม มักนิยมนำมารับประทานแบบซาซิมิ เนื่องจากมีคุณภาพของเนื้อที่สูงและเนื้อสัมผัสที่ดีเยี่ยม
-
เนื้อสัน (Loin)
เป็นเนื้อที่อยู่บริเวณกลางลำตัวของปลา เป็นส่วนที่มีไขมันแทรกน้อย เหมาะสำหรับการนำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งย่าง อบ หรือปรุงในเมนูเพื่อสุขภาพต่าง ๆ
-
ส่วนหน้าท้อง (Belly)
เป็นเนื้อบริเวณที่มีไขมันสะสมมากที่สุด เนื้อมีความนุ่มและฉ่ำ นิยมใช้ในเมนูปิ้งย่าง โดยเฉพาะการย่างให้หนังกรอบเกรียมเพื่อเพิ่มรสสัมผัส
-
เนื้อกลางตัว (Second Cut)
เป็นเนื้อบาง ๆ ที่อยู่บริเวณต่อจากส่วนลำตัว มีไขมันแทรกน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการควบคุมปริมาณไขมันในอาหาร
-
ส่วนหาง (Tail)
เป็นเนื้อบริเวณที่แทบไม่มีไขมันแทรก นิยมนำไปบดหรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อใช้ประกอบในเมนูอาหารหลากหลายประเภท เช่น ลูกชิ้นปลา หรือเมนูผัดต่าง ๆ
แม้ว่า ปลาเทราต์ และ ปลาแซลมอน จะมีความคล้ายคลึงกันทั้งในด้านรูปร่างและรสชาติ แต่ทั้งสองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน โดยปลาเทราต์โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่ม รสชาติอ่อนสด มีไขมันแทรกน้อย และยังให้คุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพไม่แพ้แซลมอนอีกด้วย
สำหรับผู้ที่มองหาวัตถุดิบคุณภาพดีเพื่อนำไปปรุงเมนูเพื่อสุขภาพ หรืออยากลองรสชาติใหม่ที่ใกล้เคียงกับแซลมอน ปลาเทราต์ คือทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่า คลิกที่นี่ เพื่อดูสินค้าหรือสั่งสินค้า
สามารถอ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
อ้างอิง
tecnogasthai.com/salmon-and-trout-different/
ananda.co.th/blog/thegenc/เทียบกันชัดชัด-ปลาแซลมอน-vs-ปลาเทราต์ต่างกันอย่างไร/
asc-aqua.org/blog/trout-vs-salmon-everything-you-need-to-know-about-two-nutritional-powerhouses/