ส่องความต่างของเนื้อปูกระป๋อง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับเมนูของคุณ

เนื้อปูกระป๋อง เป็นวัตถุดิบจากท้องทะเลที่มอบทั้งรสชาติหวานแบบธรรมชาติ เนื้อนุ่มละมุน และความสะดวกต่อการใช้งาน เหมาะทั้งในครัวบ้านและครัวร้านอาหาร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จาก Ocean Gems ที่ผ่านกระบวนการปรุงสุกและการพาสเจอร์ไรซ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อความสะอาดปลอดภัย คงคุณภาพและรสชาติของเนื้อปูได้อย่างครบถ้วน เหมือนแกะสด
โดยในบทความนี้เราจะพามารส่องความแตกต่างเนื้อปูกระป๋องจากแบรนด์ Ocean Gems ว่าลักษณะและคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับการทำเมนูอะไรบ้าง พร้อมทั้งข้อแนะนำสำหรับการใช้เนื้อปูกระป๋อง
3 ประเภทของเนื้อปูกระป๋อง
แม้จะอยู่ในรูปแบบกระป๋อง แต่เนื้อปูยังสามารถแบ่งได้ตามส่วนของตัวปูและคุณภาพของเนื้อ ซึ่งมีลักษณะและการใช้งานต่างกัน ดังนี้
1. OCEAN GEMS "Crab Jumbo Lump Meat" (เนื้อปู กรรเชียงปูขนาดใหญ่)
- ลักษณะเนื้อ: เป็นเนื้อปูจากขากรรเชียง เนื้อขาวแน่น ชิ้นใหญ่ รสหวาน
- รสชาติ : อ่อนและหวานธรรมชาติ สัมผัสนุ่ม แน่น
- เหมาะกับเมนู : เมนูที่ต้องการโชว์เนื้อปูชิ้นใหญ่สวยและคงรูป เช่น ปูจ๋า สลัดเนื้อปู หรือเสิร์ฟเป็นท็อปปิ้งในซุป วางบนหน้าไข่เจียว, ไข่ตุ๋น หรือโรยหน้าบนข้าวผัดปู
- จุดเด่น: รูปทรงชัดเจน เนื้อไม่เละ เหมาะสำหรับการจัดจานให้ดูพรีเมียม
สั่งซื้อสินค้าหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
2. OCEAN GEMS "Crab Meat Special" (เนื้อปูคัดพิเศษ)
- ลักษณะเนื้อ: เป็นเนื้อปูส่วนอก มีสีขาว เป็นริ้ว ๆ จะไม่มีเปลือกหรือเศษก้ามปู
- รสชาติ : มีหวานธรรมชาติคล้าย Jumbo Lump แต่มีขนาดเล็กกว่า
- เหมาะกับเมนู : นำมาผัด ทำซอส หรือใส่ในเมนูต่าง ๆ เช่น ข้าวผัดปู, ผัดพริกเหลืองปู, ปูผัดผงกะหรี่ โรยหน้าซุป หรือ ขนมจีนน้ำยาปู เหมาะสำหรับเมนูที่ต้องการเนื้อปูเยอะ ๆ
- จุดเด่น: สามารถนำมาประกอบเมนูได้หลากหลาย
สั่งซื้อสินค้าหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
3. OCEAN GEMS "Claw Meat" (เนื้อก้ามปู)
- ลักษณะเนื้อ: เป็นเนื้อปูส่วนก้ามปู มีส้มเข้มถึงน้ำตาล
- รสชาติ : มีความเข้มข้น มีกลิ่นปูชัดเจน เคี้ยวมัน
- เหมาะกับเมนู : เหมาะกับเมนูที่ต้องการรสชาติเข้มข้น เช่น ซุปต้มยำปู, ปูต้มข่า, ข้าวต้มปู, โจ๊กปู, แกงปูใบชะพลู, แกงกะทิปู, ผัดเผ็ดปู หรือกะเพราปู
- จุดเด่น: เป็นเนื้อส่วนที่มีสีส้มสดทำให้อาหารหรือเมนูต่าง ๆ ดูน่ารับประทานมากขึ้น
สั่งซื้อสินค้าหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ข้อดีของการเลือกใช้เนื้อปูกระป๋อง Ocean Gems
เนื้อปูกระป๋อง จากแบรนด์โอเชี่ยน เจมส์ ผู้ผลิตอาหารทะเล ที่ใส่ใจคุณภาพทุกขั้นตอนการผลิต กับการคัดเลือกปูสด ๆ อย่างพิถีพิถัน ผ่านกรรมวิธีการพาสเจอร์ไรซ์ที่มีมาตรฐาน ให้เนื้อยังคงความหวานและสดใหม่จากธรรมชาติ ไม่ใช้สารวัตถุกันเสีย เนื้อแน่น เต็มคำ มีกรรมวิธีบรรจุที่ได้รับรองมาตรฐาน
การเก็บรักษาเนื้อปูกระป๋อง
เนื้อปูกระป๋องที่ยังไม่เปิดสามารถอยู่ได้นานด้วยกระบวนการบรรจุกระป๋อง แต่เมื่อเปิดกระป๋องแล้วจะทำให้อายุสั้นลง โดยการเก็บรักษาอย่างถูกต้องคือกุญแจสำคัญในการเก็บเนื้อปูให้ปลอดภัยและอร่อย
- ก่อนเปิดกระป๋อง: เก็บในอุณหภูมิตามที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ (ส่วนใหญ่ควรเก็บในตู้เย็นหรือแช่เย็น 0–4°C)
- หลังเปิดกระป๋อง: ควรถ่ายเนื้อปูลงในภาชนะที่ปิดสนิทและเก็บในตู้เย็น ควรบริโภคให้หมดภายใน 2 วันเพื่อรักษาคุณภาพ ความสด และความปลอดภัย หรือเขียนวันที่ติดฉลากบนกล่องภาชนะ เพื่อให้ทราบว่าเนื้อปูเก็บมานานเท่าไหร่แล้ว
- ห้ามแช่แข็งซ้ำ: หากเนื้อปูผ่านการแช่แข็งและละลายแล้ว ไม่ควรนำกลับไปแช่แข็งอีก เนื่องจากจะทำให้เนื้อเสียรสชาติและเนื้อสัมผัส
เทคนิคการใช้เนื้อปูกระป๋องให้ได้รสชาติอร่อยที่สุด

1. เทน้ำออกและล้างทำความสะอาด
เมื่อเปิดกระป๋อง ควรเทน้ำออกและล้างเนื้อปูด้วยน้ำสะอาด เพื่อช่วยขจัดสารกันเสียและความเค็มส่วนเกิน พร้อมทั้งช่วยให้รสชาติดีขึ้น ในขั้นตอนนี้ควรตรวจสอบและคัดเอาเศษเปลือกปูที่อาจปะปนออกด้วย
2. ปรุงรสให้พอดี
เนื้อปูมีรสชาติที่เฉพาะตัว จึงควรระวังไม่ให้ปรุงรสมากหรือน้อยเกินไป เริ่มจากเกลือและพริกไทยเล็กน้อย (ไม่ควรใส่มากเพราะเนื้อปูกระป๋องมีความเค็มอยู่แล้ว) และสามารถใช้คู่กับเครื่องปรุงที่ช่วยขับรสหวานของปู เช่น เนย กระเทียม หอมใหญ่ หรือเครื่องแกงที่มีกลิ่นหอม
3. ระวังการปรุงสุกเกินไป
เมื่ออุ่นเนื้อปูกระป๋องหรือนำมาประกอบอาหาร ไม่ควรให้โดนความร้อนนานหรือใช้ไปแรงเกินไป เพราะเนื้อที่สุกแล้วอาจแห้งหรือเสียรสชาติได้ ควรใส่เนื้อปูเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการปรุงอาหาร เพื่อป้องกันการคลุกเคล้าจนเนื้อแตกเละ
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม
- กุ้งลายเสือ ราชาแห่งกุ้งทะเลที่คุณไม่ควรพลาด
- ปลากะพง: ปลายอดนิยมที่ครองใจทั้งเชฟและผู้บริโภค
- ปลาเทราต์ ต่างจากปลาแซลมอนอย่างไร? เทียบชัดทุกมิติ
- หอยแมลงภู่ชิลีอาหารทะเลสุดพรีเมียม ความอร่อยที่ไม่ควรพลาด
อ้างอิง