สายพันธุ์วัวจากทั่วโลก – เสน่ห์แห่งความแตกต่างที่สะท้อนในรสชาติของเนื้อวัว

สำหรับผู้ที่หลงใหลในรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อวัว หรือผู้ประกอบการที่ต้องการคัดสรรวัตถุดิบชั้นยอด การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สายพันธุ์วัว คือกุญแจสำคัญสู่การเลือกสรรที่สมบูรณ์แบบ เพราะในโลกของเนื้อวัวนั้น คำว่า "วัว" ไม่ได้หมายถึงสิ่งเดียวกันในทุกภูมิภาค แต่ละประเทศได้พัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์วัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและตอบโจทย์รสนิยมเฉพาะตัว จนเกิดเป็นความแตกต่างที่น่าทึ่งทั้งในด้านวิธีการเลี้ยงดู คุณภาพเนื้อ และรสสัมผัสที่ได้รับ ในบทความนี้ เราจะพาคุณเจาะลึกความพิเศษของ 4 สายพันธุ์วัวเด่นจาก 4 ประเทศผู้ผลิตเนื้อชั้นนำของโลก ได้แก่ ญี่ปุ่น อเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

สายพันธุ์วัว (Cattle Breeds) คือ กลุ่มของวัวที่มีลักษณะทางพันธุกรรมร่วมกันอย่างชัดเจน เช่น สีขน รูปทรง น้ำหนัก และที่สำคัญคือ คุณภาพของเนื้อ สายพันธุ์ที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อปริมาณไขมันแทรก (Marbling Score) ความนุ่ม ความเข้มข้นของรสชาติ และกลิ่นหอมของเนื้อ ซึ่งความหลากหลายนี้เป็นผลมาจากการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้ได้วัวที่เหมาะสมที่สุดในการผลิตเนื้อในแต่ละพื้นที่

เนื้อวัวนำเข้าจาก  4 ประเทศ มีความแตกต่างกัน ดังนี้

Japanese Beef วัวสายพันธุ์ญี่ปุ่น: วากิว (Wagyu) ราชาแห่งเนื้อลายหินอ่อน

วากิว (Wagyu) ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์วัวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยเอกลักษณ์ของไขมันแทรกเนื้อละเอียด หรือที่เรียกว่า marbling ซึ่งกระจายทั่วชิ้นเนื้ออย่างสวยงาม

• วิธีการเลี้ยงดู: การเลี้ยงดูเป็นไปอย่างพิถีพิถันและควบคุมอย่างเข้มงวด มักจะเลี้ยงในคอกอย่างดีด้วยอาหารที่มีคุณภาพสูง รวมถึงธัญพืชสูตรพิเศษ ซึ่งบางแห่งอาจมีเคล็ดลับการดูแลเฉพาะ เช่น การนวดตัว หรือให้ดื่มเบียร์ เพื่อช่วยในการผ่อนคลายและกระตุ้นความอยากอาหาร
• สายพันธุ์หลัก: กลุ่มวากิว ประกอบด้วย 4 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ พันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ (Kuroge Washu), พันธุ์ญี่ปุ่นขนน้ำตาล (Akage Washu), พันธุ์ญี่ปุ่นเขาสั้น (Nihon Tankaku Washu) และพันธุ์ญี่ปุ่นไม่มีเขา (Mukaku Washu) โดยพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำได้รับความนิยมสูงสุดและยกย่องให้เป็นสุดยอดสายพันธุ์อันดับหนึ่ง
• รสชาติและความโดดเด่น: วากิว มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจาก ลายไขมันแทรก (Marbling) ในระดับที่สูงมาก ซึ่งเมื่อปรุงสุกแล้วจะละลาย ทำให้เนื้อมีความ นุ่มละมุนลิ้น (Melts in your mouth) และมีกลิ่นหอมหวาน (Umami) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการประกอบอาหารที่ไม่ต้องใช้ความร้อนสูงเป็นเวลานาน เช่น สุกี้ยากี้ หรือชาบู-ชาบู

US Beef วัวสายพันธุ์อเมริกา: แองกัส (Angus) – มาตรฐานแห่งสเต๊กระดับพรีเมียม

วัวสายพันธุ์ Black Angus มีต้นกำเนิดจากสกอตแลนด์ แต่ได้รับการพัฒนาและคัดกรองและตรวจสอบคุณภาพอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นหนึ่งในสายพันธุ์วัวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการอาหารระดับโลก โดยเฉพาะในสเต๊กเฮาส์

• วิธีการเลี้ยงดู: โคแองกัสเป็นวัวอารมณ์ดี ไม่หงุดหงิด มีความทนทานและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ในสหรัฐอเมริกาโคแองกัสมักจะถูกเลี้ยงด้วยอาหารประเภท ธัญพืช (Grain-fed) เช่น ข้าวโพด ทำให้มีไขมันแทรกแบบชุ่มฉ่ำ เนื้อมีความหนานุ่ม 
• สายพันธุ์หลัก: แบล็คแองกัส (Black Angus) และ เรดแองกัส (Red Angus)
• รสชาติและความโดดเด่น: เนื้อแองกัส เป็นที่ยอมรับในฐานะมาตรฐานสเต๊กคุณภาพสูงทั่วโลก โดดเด่นด้วยสีเนื้อที่แดงสวยงาม มีไขมันแทรกในระดับปานกลางถึงสูง รสชาติเนื้อที่เข้มข้นชัดเจน เป็นที่ชื่นชอบของคนที่เนื้อติดมัน

Australian Beef วัวสายพันธุ์ออสเตรเลีย:  ความหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ออสเตรเลียถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเนื้อวัวรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยภูมิประเทศที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ ทำให้วัวในออสเตรเลียเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ ได้รับอากาศบริสุทธิ์และหญ้าคุณภาพดี ผลลัพธ์คือเนื้อวัวที่มีรสชาตินุ่มแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ

• สายพันธุ์หลัก: ออสเตรเลียเป็นแหล่งผลิตเนื้อวัวขนาดใหญ่ที่มีหลายสายพันธุ์ เช่น แองกัส, เฮียร์ฟอร์ด, บราห์มัน และลูกผสมต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาวากิวของตนเอง
• วิธีการเลี้ยงดู: ออสเตรเลียมีความโดดเด่นในการเลี้ยงแบบ โดยมีการเลี้ยง 2 แบบ

1. เลี้ยงด้วยหญ้า (Grass-fed) โดยปล่อยให้เดินในทุ่งกว้างและปล่อยกินหญ้าตามธรรมชาติ ซึ่งให้เนื้อที่มีไขมันน้อย ดีต่อสุขภาพ 
2. เลี้ยงด้วยธัญพืช (Grain-fed) ซึ่งวัวจะได้สารอาหารที่สมดุลที่สุด ทำให้มีปริมาณไขมันแทรกและความนุ่ม 

• รสชาติและความโดดเด่น: มีความหลากหลายทั้งวัวที่เลี้ยงแบบ Grass-fed และ Grain-fed เนื้อมีรสชาติกลมกล่อม แน่นและนุ่มกำลังดี มีไขมันที่ไม่มันจนเกินไป เหมาะกับการย่างหรือทำสเต๊ก

New Zealand Beef วัวสายพันธุ์นิวซีแลนด์: เนื้อวัวจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านการเลี้ยงวัวแบบปลอดสารและเป็นธรรมชาติ 100% วัวส่วนใหญ่เติบโตในทุ่งหญ้ากว้างภายใต้สภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี

• สายพันธุ์หลัก: เฮียร์ฟอร์ด (Hereford) และแองกัส (Angus) เป็นสองสายพันธุ์หลักที่นิยมเลี้ยง
• วิธีการเลี้ยงดู: นิวซีแลนด์ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่วัวส่วนใหญ่ได้รับการเลี้ยงแบบ Grass-fed 100% ตลอดทั้งปี ในสภาพภูมิอากาศที่อุดมสมบูรณ์และเป็นมิตรต่อการเลี้ยงสัตว์
• รสชาติและความโดดเด่น: เนื้อนิวซีแลนด์มีรสชาติของเนื้อที่สะอาดและเป็นธรรมชาติ มีไขมันแทรกน้อยและมีความนุ่มละมุนลิ้น เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและชื่นชอบเนื้อวัวที่ได้จากวิถีการเลี้ยงดูตามธรรมชาติ โดยเฉพาะโคพันธุ์เฮียร์ฟอร์ดที่มีลักษณะเด่น คือ หน้าขาว ลำตัวใหญ่ ให้เนื้อแน่นและหนา

การทำความเข้าใจในความแตกต่างของ สายพันธุ์วัว และวิธีการเลี้ยงดูจากแต่ละประเทศ จะช่วยให้สามารถเลือกสรรเนื้อวัวที่ตรงกับรสนิยมและความต้องการในการประกอบอาหารได้มากยิ่งขึ้น  อีกทั้งยังช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับการรับประทานเนื้อวัวในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน

หากคุณสนใจเนื้อวัวคุณภาพจากหลากหลายสายพันธุ์ระดับพรีเมียม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Siam Food Services

 

อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม

• ถอดรหัสสำหรับสายเนื้อ กับ “เนื้อวากิว (Wagyu)” คืออะไร มีกี่สายพันธุ์และมีกี่เกรด ?
• ทำไม “เนื้อวัวออสเตรเลีย” ถึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของสายเนื้อทั่วโลก?
• Marbling Score คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญต่อคนรักเนื้อวัว
• เนื้อสเต็ก: ความรู้เบื้องต้นและการเลือก Steak Cuts ยอดนิยมที่คุณควรรู้

 

อ้างอิง

www.kabochasushi.com

food.dusit.ac.th

www.sgethai.com